วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เทิดทูน ปกป้อง สถาบันหลัก


จะเหลืออะไรถ้าชาติมีคนชั่ว       จะเหลืออะไรถ้ามัวแต่ปิดกั้น
จะเหลืออะไรถ้าไม่ช่วยกันฝ่าฟัน   อุปสรรคที่ขวางกั้นให้พ้นไป
จะเหลืออะไรถ้าชาติขาดคนดี   จะเหลืออะไรแม้ชีวีที่มีอยู่
 จะเหลืออะไรถ้าไม่ช่วยกันกอบกู้   ช่วยเชิดชูชาติไทยให้รุ่งเรือง
จงร่วมมือร่วมใจสร้างไทยเถิด  ช่วยกันเชิดชูไทยให้เกียรติก้อง

           ในช่วงสถานการณ์ที่ผ่านมา ข้าพเจ้าค่อนข้างสับสนกับความเปลี่ยนแปลงของสังคมไทย ความเสื่อมถอยในด้านต่างๆของสังคมไทย การหลงลืมวัฒนธรรมประเพณีของความเป็นไทย การแตกความสามัคคีแบ่งสีแบ่งฝ่าย หลงลืมความมีน้ำใจของตนเอง หลงลืมความเป็นไทยที่มีจิตใจที่ดีงาม
            เมื่อข้าพเจ้าเป็นเด็ก ข้าพเจ้าถูกพร่ำสอนเสมอว่าเราต้องรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รักความเป็นไทยของเรา ครูมักถามเสมอว่า ใครอยากเป็นทหารบ้าง เพื่อนๆของข้าพเจ้ายกมือกันพรึบ ซึ่งรวมทั้งข้าพเจ้าด้วย ครูบอกว่า ทหารมีหน้าที่เป็นรั้วของชาติ ปกป้องอันตรายจากรอบด้านของประเทศไทย ให้คนไทยทุกคนได้อยู่อย่างสงบสุขบนผืนแผ่นดินไทย ซึ่งก็คือประเทศไทยที่ข้าพเจ้าเคยภาคภูมิใจว่า “เป็นประเทศที่ไม่เคยแพ้ชาติใดในโลก” เริ่มที่จะจางหายไป ประเทศไทยที่ข้าพเจ้าเคยคิดว่าเป็นประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก ประเทศไทยที่มีอาหารอร่อยที่สุดในโลก ไม่มีประเทศไหนที่อร่อยไปกว่าประเทศไทยอีกแล้ว ประเทศไทยที่ข้าพเจ้าเคยได้ยินมาว่าเมืองแห่งการยิ้ม หรือว่า “สยามเมืองยิ้ม” หายไปที่ใดแล้ว เหลือแต่ประเทศไทยที่มีแต่ความแตกแยก การเข่นฆ่ากันเองมีอยู่ทุกที่ทุกเวลา
            ข้าพเจ้าคิดว่าเมื่อสังคมไทยเราแตกแยก เราจำเป็นจะต้องปลูกจิตสำนึกให้ผู้คนรักแผ่นดินเกิด กตัญญูต่อแผ่นดิน กตัญญูต่อชาติ การปลูกจิตสำนึกการเป็นคนไทยของข้าพเจ้านั้น ก็มีหลายวิธี ทั้งการพูด การกระทำ และการร่วมใจกัน เพลงที่ปลูกจิตสำนึกความเป็นคนไทยนั้นก็มีอยู่มากมาย โดยเฉพาะเพลงชาติ ที่สื่อความหมายความเป็นชาติไทยได้เป็นอย่างดี ทั้งเพลงลูกเสือเนตรนารี หรือเพลงอื่นๆ ที่สื่อความหมายให้คนรู้สึกรักแผ่นดินก็มีมากมายแต่พวกเราชาวไทยทุกคนก็จะต้องร่วมใจกัน เมื่อร่วมใจกันได้แล้ว ก็ร่วมกระทำร่วมปฏิบัติต่อกัน ร่วมฟื้นฟูแผ่นดินไทยของเราให้เป็นแผ่นดินใหม่ที่น่าอยู่ ร่วมประสานไมตรีจิตต่อกัน เพราะว่าเราคนไทยทุกคนมีศูนย์รวมจิตใจของคนในชาติเหมือนกัน ก็คือ สถาบันชาติ สถาบันศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์ นอกจากนี้ก็ยังมีสถาบันครอบครัว การศึกษา ชุมชน องค์กรท้องถิน องค์กรสาธารณะกุศลทั้งหลาย เป็นต้น ข้าพเจ้าคิดว่าถ้าเราร่วมใจกันสร้างสรรค์ความสามัคคีแล้ว ก็มิใช่เรื่องยากเลย น่าจะทำควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจของเราด้วย แก้ไขปัญหาคนว่างงาน โดยการอบรมหลักวิชาชีพให้เขาด้วย และก็ควรที่จะอบรมคุณธรรมจริยธรรม ความรักสามัคคีต่อกันควบคู่ไปด้วย แจกเงินแล้ว ก็ต้องแจกจิตสำนึกที่ดีให้กับสังคมด้วย เราต้องให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เมืองไทยเรานั้นที่ได้ชื่อว่าเมืองแห่งการยิ้ม เมืองที่รักความสงบสุข ทำอย่างไรเราจะปลูกจิตสำนึกความเป็นคนไทย ให้คนไทยหันมายิ้มต่อกันได้ และรักที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขได้ คนไทยทุกคนก็ควรที่จะช่วยกันทำ
        ที่กล่าวมาทั้งหมดจะเห็นได้ว่าหากเราทุกคนช่วยกันทำ ไม่เกี่ยงกัน ไม่แบ่งพรรคแบ่งสีแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ควรจะตระหนักว่าเราอยู่ใต้ผืนธงชาติผืนเดียวกันมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นที่พึ่งทางใจเหมือนกัน หากคนไทยไม่รักกันแล้วใครจะมารักเรา หากคนไทยไม่หวงแหนความเป็นชาติไทยของเราใครจะมาหวงแหนให้เราดังบทกลอนที่ว่า
            ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง        แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง
            ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง       จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง

นศท.สมภาร  สีบุตรดี  ชั้นปีที่ 3 ร.ร.โพธิ์ธาตุประชาสรรค์

ไม่มีความคิดเห็น: